![]()
เมื่อนึกถึงเทคโนโลยีจอภาพ คำว่า LED กับ OLED น่าจะเป็นคำที่คุ้นหูของใครหลายคน เพราะเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ทั้งในจอทีวี และจอมอนิเตอร์ แต่คนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่รู้ว่า หากต้องเลือกใช้งานจริง ๆ ควรจะเลือกแบบไหนถึงจะเหมาะ วันนี้เราจะมาแนะนำให้เอง
จอ OLED คืออะไร
![]()
จอ OLED (Organic Light-Emitting Diode) คือ เทคโนโลยีจอภาพที่ไม่มีหลอดไฟด้านหลัง และทุกพิกเซลจะเชื่อมต่อกันภายใต้แผ่นฟิล์ม Electroluminescence ในการแสดงผล จึงทำให้มีความคมชัด และสีสันสมจริงเป็นอย่างมาก และยังไม่เปล่งแสงในจุดที่เป็นสีดำ เลยทำให้ภาพในจอมีความเข้มตามที่ควรจะเป็น และยังประหยัดพลังงานมากกว่า
จุดเด่นของจอ OLED
- ความเข้มของจุดสีดำ : เพราะจอ OLED ไม่ได้มีหลอดไฟด้านหลัง และยังมีการทำงานแยกกันของเม็ดพิกเซล จึงทำให้การแสดงผลในส่วนของสีดำนั้นมืดสนิท และดูมีมิติมากกว่า
- มุมมองที่กว้าง : ในการใช้งานจอ OLED ไม่ว่าจะนั่งมองจากมุมตรง ด้านข้าง หรือเฉียงไปในทิศทางไหน ก็ยังสามารถเห็นภาพได้คมชัดในทุกมิติ โดยไม่มีต้องตั้งตรงในการใช้งานเพียงเท่านั้น
- ลดระดับแสงสีฟ้าลง : เมื่อเทียบกับจอภาพประเภทอื่น OLED เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อสายตาได้มากกว่า ซึ่งอาจจะมากกว่า 50% ของจอทั่วไป จึงช่วยถนอมสายตาในการใช้งานได้ดีกว่า
- ประหยัดพลังงานมากกว่า : อย่างที่เราได้บอกไปว่า การทำงานของจอ OLED จะแบ่งออกเป็นพิกเซล นั่นทำให้การแสดงผลส่วนที่ได้ใช้งาน จะถูกดึงพลังงานไปใช้ เลยทำให้ประหยัดไฟมากกว่าจอประเภทอื่น
- ตอบสนองเร็วกว่า : จอ OLED มีอัตราการตอบสนองในการเชื่อมต่อที่เร็วกว่า โดยเฉพาะการใช้งานกับคีย์บอร์ด และเมาส์ในการทำงาน หรือเล่นเกม จึงเป็นอีกข้อดีในการใช้งานอย่างครอบคลุม
จอ LED คืออะไร
![]()
จอ LED (Light-Emitting Diode) คือ เทคโนโลยีจอภาพ ที่มีการใช้หลอดไฟในการทำงานอยู่ด้านหลัง โดยจะเป็นแผงหลอดไฟขนาดเล็กจำนวนมหาศาล ที่จะมีเม็ดคริสตัลเป็นแม่สี (แดง, เขียว, น้ำเงิน) ในการสร้างเม็ดสีจากการบิดองศาของแสง จึงทำให้เม็ดพิกเซลแต่ละจุดแสดงผลออกมามีสีสันสวยงาม
จุดเด่นของจอ LED
- ความสว่างของหน้าจอ : เทคโนโลยีจอ LED จะให้ความสว่างในการใช้งานที่ดี ตอบโจทย์คนที่ต้องใช้ในห้องแสงสว่างจ้า หรือชอบหน้าจอที่สว่าง ๆ ในการใช้งาน
- ความคงทน : จอ LED มีความคงทนในการใช้งานมากกว่า OLED สามารถใช้งานได้เป็นระยะเวลานาน โดยไม่เกิดอาการเบิร์นของหน้าจอ
- ราคาที่ตอบโจทย์ : จอแบบ LED จะมีราคาที่ถูกกว่าเป็นส่วนใหญ่ และยังมีขนาดให้เลือกใช้งานที่หลากหลาย จึงตอบโจทย์คนที่ต้องการความคุ้มค่าได้เป็นอย่างดี
OLED vs LED ควรเลือกแบบไหนให้ตอบโจทย์การใช้งาน
![]()
สำหรับการเลือกใช้งานระหว่างจอ OLED vs LED ควรจะเลือกจากประเภทงานที่ต้องใช้เป็นหลัก ซึ่งจะแบ่งออกเป็นหลัก ๆ ได้ 3 กลุ่ม ดังนี้
- สายงานกราฟิก / ตัดต่อ /คอนเทนต์ครีเอเตอร์ : ควรเลือกใช้งานจอ OLED มากกว่า เพราะหน้าจอมีการแสดงผลของเม็ดสีแต่คมชัด และสมจริงมากที่สุด จึงตอบโจทย์คนทำงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของสีโดยตรง
- สายเล่นเกม : ควรเลือกใช้งานจอ LED ที่มีความคงทนมากกว่า เพื่อช่วยให้เล่นได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีอาการเบิร์น อีกทั้งยังตอบโจทย์ในเรื่องของความสว่างที่มากขึ้น และยังคงความสวยงามของสีสันภาพอยู่
- สายทำงานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง : สามารถเลือกใช้งานได้ทั้งสองแบบ อยู่ที่ความชอบเป็นหลัก เพราะจอทั้งสองประเภทตอบสนองการใช้งานได้ทั้งหมด แต่หากเป็นคนที่ชอบเรื่องความสวยงามของภาพ จอ OLED ก็อาจจะตอบโจทย์กว่า แต่ถ้าไม่ได้ซีเรียสเรื่องรายละเอียดภาพขนาดนั้น จอ LED ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดีในด้านราคา และขนาดที่มีให้เลือกใช้งานมากกว่า
สรุปบทความ
และนี่ก็คือความต่างของเทคโนโลยีจอภาพ OLED กับ LED ที่ต้องบอกว่าไม่มีแบบไหนดีกว่า แต่ขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลัก และหวังว่าคนที่ยังลังเลในการเลือกใช้งานจอมอนิเตอร์ จะตัดสินใจกันได้ง่ายขึ้นหลังจากอ่านบทความนี้ แต่ถ้าหากยังไม่รู้ว่าจะใช้จอรุ่นไหนดี มาเลือกดูจอ ViewSonic จากอเมริกากันก่อนได้เลย